วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 18.00 น. ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปุณณฑรีย์ เจียวิริยบุญญา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ ร่วมกิจกรรม TAT Nakhonphanom Open House #8 “สีสันแห่งสายน้ำ” โดยมี นางสาวกนกวรรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ให้การต้อนรับ มีนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกิจกรรม ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ริมโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

ขณะเดียวกัน นางสาวกนกวรรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ได้แถลงผลการดำเนินงานของ ททท. ในปีที่ผ่านมา รวมถึงแผนปฏิบัติงานด้านการท่องเที่ยวในปี 2567 ต่อสื่อมวลชนและผู้ที่มาร่วมงาน โดยหลังสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด และประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ทำให้จังหวัดนครพนมมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างเนื่อง ซึ่งเพจอีสานอินไซต์ได้มีการวิเคราะห์ตัวเลขและจัดอันดับให้จังหวัดนครพนมมีอัตราการเจริญเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวในปี 2565 สูงเป็นอันดับ 1 ของภาคอีสาน ทำให้จังหวัดนครพนมมองเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ว่าจากการขับเคลื่อนงานแบบบูรณาการความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และมีความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว โดยตลอดทั้งปี 2565 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 64% และในปี 2566 แม้จะยังไม่ถึงสิ้นปี ตัวเลขขยับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 75% แล้ว ทำให้ ณ ปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 1,900 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดีทาง ททท.สำนักงานนครพนม และจังหวัดนครพนม ตลอดจนภาคีเครือข่ายก็ยังคงไม่หยุดนิ่ง ยังจะมีการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการเติบโตในการเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยจะร่วมกันนำเสนอสถานท่องเที่ยวแหล่งใหม่ ๆ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทาง 2 ศาสนา เส้นทางตามรอยพญานาค การนำประเพณีและวัฒนธรรมของ 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ ด้วยการดึง Soft Power ในพื้นที่มาเผยแพร่และสร้างแรงดึงดูดกระตุ้นให้ทุกคนอยากมาเยือนจังหวัดนครพนมมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมทำกิจกรรม รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการออกกำลังกาย

ส่วนแผนดำเนินงานในปี 2567 ททท.สำนักงานนครพนม ได้วางยุทธศาสตร์ส่งเสริมแผนการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดสนุกต่อไปอีก (สกลนคร นครพนม มุกดาหาร) ด้วยการขับเคลื่อน 5 F และ 1 F คือ Food Film Festival Fashion Fight และ Faith โดยจะเริ่มจาก Food ด้วยโปรเจ็คต์ “สนุกปาก” ที่จะยกระดับความเป็นอาหารพื้นถิ่นของแต่ละชนเผ่ามาขับเคลื่อนแผนการท่องเที่ยว อย่างครั้งนี้ที่มีการแถลงข่าวจะเห็นได้ว่ามีการนำเอา “เมี่ยงตาสวด” ของดีจากชนเผ่าไทยแสก ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม มาให้ผู้ร่วมงานได้ชิมแล้วด้วย

จากนั้น นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมงานประเพณีไหลเรือไฟ และงานกาชาดจังหวัดนครพนม ระหว่าง 20-30 ตุลาคมที่จะถึงนี้ด้วย ในการท่องเที่ยวไหลเรือไฟปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวชมงานไหลเรือไฟเป็นจำนวนมาก การต้อนรับและอำนวยความสะดวกต่อผู้มาเยือนก็เป็นหน้าที่ของชาวนครพนม ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะมางานในปีนี้ จากข้อมูลทราบว่าที่พักตามโรงแรมต่าง ๆ ถูกจองล่วงหน้าเต็มหมดแล้ว ทำให้มีเสียงเรียกร้องเกี่ยวกับที่พักเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทางจังหวัดนครพนมพนมจึงได้ประสานงานกับหน่วยต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกจัดหาที่พักเพิ่มเติมให้เป็นสถานที่ราชการ เช่น ค่าย ตชด.236, ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครพนม และค่ายพระยอดเมืองขวาง มณฑลทหารบกที่ 210 โดยผู้ที่สนใจจะมีค่าใช้จ่ายเพียง 100 บาท แต่ต้องเตรียมเต๊นท์ที่พักมาเอง โดยประสานได้ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม

ภาพ/ข่าว : พัฒนะ พิมพ์แน่น