เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ณ ห้องพนมพัฒน์ ชั้น 4 อาคารสารสนเทศเพื่อการบริหาร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม ผศ.ดร.ขจิต ณ กาฬสินธุ์ คณบดีคณะวิทยาการจัดการและเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมด้วยอาจารย์คงฤทธิ์ รีวงษ์ หัวหน้าสาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล คณาจารย์ และนักศึกษาสาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล เข้าพบนายสมยศ สีแสนซุย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อรับฟังโอวาทและแสดงความยินดีกับนักศึกษาสาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล ที่คว้ารางวัลที่ 1 “คนทันสื่อ ครบเครื่อง" จากกิจกรรม Show & Share ในโครงการพัฒนาความสามารถการรู้เท่าทันสื่อและการผลิตสื่อสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชน ซึ่งจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กับ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) เมื่อวันที่ 10-11 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพมหานคร

โดยโครงการพัฒนาความสามารถการรู้เท่าทันสื่อและการผลิตสื่อสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชน เป็นการดำเนินโครงการในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารและนครพนม เพื่อมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างภูมิคุ้มกัน สนับสนุนและสร้างต้นแบบนักสื่อสารสร้างสรรค์ที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยจากสื่อออนไลน์ ให้มีทักษะในการเข้าถึงสื่อ และสามารถวิเคราะห์ ประเมินสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการผลิตสื่อสร้างสรรค์ได้ ซึ่งเมื่อช่วงเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ทางสาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล มหาวิทยาลัยนครพนม ได้จัดอบรมแกนนำเยาวชน รวมถึงการขยายผลต่อเนื่องของเครือข่ายเพิ่มกว่า 300 คน ในพื้นที่ 15 โรงเรียน โดยใช้โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อ.เมือง และ โรงเรียนธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เป็นแกนนำฝึกอบรม

ด้าน นายสมยศ สีแสนซุย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวว่า รางวัลครั้งนี้ถือเป็นรางวัลความภาคภูมิใจของคณาจารย์และนักศึกษา เพราะมันคือตัววัดสมรรถนะผู้เรียนให้ได้กล้าคิด กล้าแสดงออก เน้นในเรื่องของทักษะต่าง ๆ ที่เกิดจากการปรับตัวทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ชื่นชมกิจกรรมและโครงการของสาขา อย่างน้อยเราได้สร้างการมีส่วนร่วมให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ของเรา สังคมได้เห็นกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นให้กับองค์กร สนับสนุนกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถ้าหากเป็นไปได้อยากให้ทางสาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล ขยายผล หรือจับมือกับสาขาวิชาอื่น ๆ มาร่วมด้วย อย่างเช่น สาขาวิชาในระดับอาชีวศึกษา เพราะจะได้ร่วมกันพัฒนาหลาย ๆ ศาสตร์ไปด้วยกัน โดยเฉพาะเทคนิคและทักษะในด้านการสื่อสารให้กับนักศึกษา จะได้เกิดเป็นมหาวิทยาลัยแห่งความสุข เพราเชื่อว่าคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเรามีความรู้ความสามารถเยอะมาก และในไม่ช้าหากได้อธิการบดีตัวจริง มหาวิทยาลัยนครพนมจะเต็มไปด้วยบุคคลที่มีความสามารถ และมีพลังสูงในการพัฒนาขับเคลื่อนองค์กรต่อไป นายสมยศ กล่าวทิ้งท้าย

ภาพ/ข่าว : พัฒนะ พิมพ์แน่น