ม. นครพนม เข้าร่วมกิจกรรม เกื้อกูล Local Knowlege Manager Sharing Showcase การเปลี่ยนแปลงภายใต้หลักคิด คน ของ ตลาด และ เกื้อกูล LEs Sharing Showcase ในมหกรรม Local Enterprises Exposition 2023
นายพัฒนะ พิมพ์แน่น 2023-07-20 18:13:33 956
มหาวิทยาลัยนครพนม นำผลงานวิจัยท้องถิ่นจัดแสดงโชว์ในงานมหกรรม “เกื้อกูล Local Enterprises Exposition 2023 : ธุรกิจชุมชน คน-ของ-ตลาด โมเดล กลไกสร้างความมั่งคั่งให้กับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน” เพื่อเพิ่มศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถในการจัดการธุรกิจของผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดงาน ณ ลานร่ำรวย ชั้น 5 เดอะ สตรีท รัชดา กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 14-15 กรกฎาคม 2566
ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่าง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และสถาบันเกื้อกูลเศรษฐกิจชุมชน มีบูธกิจกรรมเข้าร่วมกว่า 300 บูธ จากผู้ประกอบการชุมชนทั่วประเทศ 75 จังหวัด ขณะที่มหาวิทยาลัยนครพนม โดยทีมนักวิจัยได้นำผลงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “กะละแม” และผลิตภัณฑ์ด้าน “ผ้าและเครื่องแต่งกาย” มาจัดแสดงบูธนิทรรศการภายในงานด้วย
นอกจากนี้ ดร.คมศักดิ์ หารไชย อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ยังได้ขึ้นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานร่วมกับชุมชน ภายใต้ “โครงการการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการตลอดสายโซ่ผลิตภัณฑ์กะละแมโบราณนครพนม ด้วยกลไกขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่าใหม่บนฐานทุนทรัพยากรพื้นถิ่น” โดยบอกว่า “กะละแม” เป็นของฝากที่ขึ้นชื่อและกลายเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่คู่กับชาว อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มากกว่า 100 ปี หากจะต่อยอดเพิ่มมูลค่าสินค้าจากกะละแมสูตรเดิมจะต้องทำอย่างไร จึงได้ลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลกับชุมชนและผู้ประกอบการ จึงได้ชุดข้อมูลที่น่าสนใจในการพัฒนาทั้งระบบ ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นอกจากการเพิ่มมูลค่าของตัวกะละแมให้มีหลายรสชาติ เพิ่มความป็นเอกลักษณ์ของเนื้อกะละแมลงไปเพิ่ม ส่วนหนึ่งที่ต้องคำนึงต่อ คือ ใบตองที่นำมาห่อต้องมีคุณลักษณะอย่างไร มีการเก็บอย่างไร ต้องใช้ใบตองแบบไหน ทุกอย่างมีรายละเอียดหมด เมื่อศึกษาข้อมูลลงไปลึก ๆ พบว่ามีการใช้ใบตองของชุมชนมากถึงปีละ 1-2 ล้านแผ่น ทำให้ใบตองในพื้นที่ไม่เพียงพอผู้ประกอบการจึงต้องนำเข้าใบตองจากต่างจังหวัดเดือนละ 3 แสนบาท สิ่งเหล่านี้มันทำให้ทีมนักวิจัยของเราหารือแนวทางกันต่อในเรื่องการสร้างอาชีพสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกต้นกล้วย เพราะสิ่งนี้เป็นเอกลักษณ์ของกะละแม ซึ่งจะต้องใช้ใบตองห่อเท่านั้นถึงจะเกิดความหอม มันคือห่วงโซ่ทั้งระบบของเศรษฐกิจชุมชนที่เราต้องช่วยชุมชนท้องถิ่น ดั่งคำ ๆ หนึ่งที่เรียกว่า “จิตวิญญาณแห่งนครพนมจะเกิดขึ้น เมื่อธุรกิจชุมชนมีหัวใจเดียวกัน”
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผ้าและเครื่องแต่งกาย อย่างโครงการ “FabricNation” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กชกร เดชะคำภู อาจารย์ประจำคณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม เป็นหัวหน้าโครงการ ได้แลกเปลี่ยนแนวคิดในการสร้างจุดร่วม กำหนดจุดยืนร่วมกันทางธุรกิจ ผ่านการแชร์วัตถุดิบ กระบวนการผลิต และการจัดการตลาดร่วมกัน อันมีจิตวิญญาณขับเคลื่อนผลประโยชน์และมีธรรมาภิบาลเพื่อส่วนรวม ก็เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการผ้าและเครื่องแต่งกาย จากทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวนกว่า 10 ราย ที่รวมกลุ่มเกื้อกูล เติบโต เป็นเครือข่ายธุรกิจปันกัน ด้วยการหาภูมิรู้ที่เป็นจุดเด่นของแต่ละคนมาเชื่อมโยง สร้างสรรค์ผลงานให้เกิดกระบวนการทำงานร่วมกัน เป็นการแชร์วัตถุดิบ แชร์กระบวนการผลิต พัฒนาออกแบบ การสร้างแบรนด์ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าสู่สากล และเชื่อมโยงตลาดทั้งในและต่างประเทศ
รายละเอียดข่าวเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=NPUThailand&set=a.318494807413995
ภาพ : ธุรกิจปันกัน
ข่าว/บทความ : พัฒนะ พิมพ์แน่น
EN
CHN
VN



















































