รอบรั้วกันเกรา

  • Home
  • รอบรั้วกันเกรา
  • ม.นครพนม ร่วมกับเครือข่ายงานวิจัยสุขภาพ เตรียมนำร่องทดสอบระบบ Innovation Sandbox รับมือภาวะโรคเบาหวาน โดยนครพนมเป็นพื้นที่แรกในภาคอีสาน

ม.นครพนม ร่วมกับเครือข่ายงานวิจัยสุขภาพ เตรียมนำร่องทดสอบระบบ Innovation Sandbox รับมือภาวะโรคเบาหวาน โดยนครพนมเป็นพื้นที่แรกในภาคอีสาน

นายพัฒนะ พิมพ์แน่น 2023-06-22 11:42:19 1,145

ม.นครพนม ร่วมกับเครือข่ายงานวิจัยสุขภาพ เตรียมนำร่องทดสอบระบบ Innovation Sandbox รับมือภาวะโรคเบาหวาน โดยนครพนมเป็นพื้นที่แรกในภาคอีสาน

มหาวิทยาลัยนครพนม ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนานโยบาย (สวน.) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผสานพลังเครือข่ายด้านสุขภาพท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม และ โรงพยาบาลนครพนม เตรียมนำร่องใช้นวัตกรรมบริการเสริมสุขภาพกับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้มีภาวะเสี่ยงเป็นแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยใช้พื้นที่ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ดำเนินงาน ภายใต้โครงการ “ทดสอบระบบบริการสร้างเสริมสุขภาพเขตเมือง : กรณีควบคุมโรคเบาหวานด้วยชีวิตวิถีใหม่และการแพทย์วิถีใหม่ในสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดฉุกเฉินที่กำลังผันเป็นโรคประจำถิ่น” โดยมีนายแพทย์วิพุธ พูลเจริญ ร่วมหารือแลกเปลี่ยนเพื่อขับเคลื่อนโครงการ ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ชั้น 3 สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม

ผศ.ดร.เบญจยามาศ พิลายนต์ อาจารย์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม ในฐานะประธานผู้เอื้อการเรียนรู้เสริมหนุนการจัดการร่วมข่ายงานจังหวัดนครพนม กล่าวว่า “โครงการดังกล่าวเป็นการทดสอบการใช้ระบบ ซึ่งระบบนี้ถูกใช้ทดสอบมาแล้วในเขตเมือง กทม. แต่พื้นที่ภาคอีสานยังไม่มีการทดสอบใช้ เราถือว่านี่เป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรกของภาคอีสานที่มีการทดสอบก่อนเป็นที่แรก หรือที่เรียกว่า Innovation Sandbox หากเราทดสอบใช้แล้วมันได้ผล เราสามารถที่จะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นได้ในบริบทที่คล้ายกัน โดยระบบตัวนี้จะช่วยควบคุมป้องกันบุคคลที่มีภาวะที่จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน หรือคนที่เป็นเบาหวานแล้ว ซึ่งมีเป้าหมาย 5 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่เป็นพันธุกรรมบวกกับการเจ็บป่วยในเรื่องโควิด19 ซึ่งระบบนี้จะช่วยเพิ่มการดูแลตัวเองไม่ให้เป็นเบาหวาน หรือภาวะเบาหวาน กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่มีเหตุปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่เป็นพรีเบาหวาน (ก่อนเป็นเบาหวาน) คือ มีน้ำตาลในเลือดสูงแต่ยังไม่ถึงเกณฑ์เป็นเบาหวาน กลุ่มที่ 4 กลุ่มที่เป็นเบาหวานแล้วแต่ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อน และ กลุ่มที่ 5 กลุ่มที่เป็นเบาหวานและเริ่มมีภาวะแทรกซ้อน ในทั้ง 5 กลุ่มนี้ หากเราใช้ระบบเข้าไปทำงาน เราจะสามารถจำแนกทั้ง 5 ลักษณะกลุ่มประชากรได้ ซึ่งจะมีข้อมูลระดับบุคคลละเอียดกว่าที่หน่วยบริการระบบสุขภาพเคยทำมา” ผศ.ดร.เบญจยามาศ กล่าว.

การทำงานของระบบ เบื้องต้นผู้ใช้บริการที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปต้องกรอกข้อมูลประวัติส่วนตัว พฤติกรรมความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดปัจจัยของเบาหวาน หรือคนที่เป็นแล้วมีการดูแลตัวเองอย่างไร มีความรู้ในการดูแลตัวเองมากขนาดไหน และเมื่อป้อนข้อมูลเข้าสู่ในระบบเรียบร้อย จากนั้นระบบจะทำการรันข้อมูลออกมาว่า ผู้ใช้บริการหรือผู้ประเมินอยู่ในกลุ่มไหน จากนั้นจะเข้าสู่การจัดบริการที่เป็นแผนการดูแลใน 3 ระดับต่อไป คือ ระดับบุคคลครอบครัว ระดับชุมชน และระดับหน่วยงานท้องถิ่น ที่จะเข้ามาสนับสนุนการจัดบริการสุขภาพให้กับประชาชน 100 คน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

อ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=NPUThailand&set=a.300932639170212

ภาพ/ข่าว : พัฒนะ พิมพ์แน่น

HOT LINK