วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รุ้งลาวัลย์ เอี่ยมกุศลกิจ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประกันคุณภาพการศึกษา เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยนครพนม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การสื่อสารเพื่อสนับสนุนภาคีสุขภาวะ” กับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ณ ห้องประชุม 201 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่าง สำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และสถาบันการศึกษานำร่อง 5 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสื่อสารสุขภาวะ โดยพัฒนานักศึกษาและเยาวชนให้มีทักษะนักสื่อสาร สามารถผลิตข้อมูลข่าวสาร (User Generate Content) เนื้อหาประเด็นสุขภาวะในชุมชนได้หลายรูปแบบ ด้วยอุปกรณ์สื่อสารใกล้ตัวและนำเสนองานสื่อสารสุขภาวะโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม และสร้างความร่วมมือสนับสนุนการสื่อสารงานสร้างเสริมสุขภาวะของภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยมีกรอบระยะเวลา 3 ปี 

นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพให้ความสำคัญกับสุขภาวะ ต้องยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมาคนไทยเมื่อ 50 ปี ที่แล้ว มีอายุเฉลี่ยไม่ถึง 60 ปีด้วยซ้ำ วันนี้ผู้ชายไทยมีอายุเฉลี่ยเพียง 73 ปี ส่วนผู้หญิงไทยมีอายุเฉลี่ย 80 ปี ก็เพราะว่าการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของคนไทยยังไม่ทั่วถึง หรือเข้าถึงได้น้อย ฉะนั้นการสื่อสารจึงมีความสำคัญที่จะทำให้คนไทยมีการรับรู้และรอบรู้ด้านสุขภาพ จนถึงขนาดที่ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองให้มีสุขภาวะที่ดีได้ ความรู้ไม่ได้สำคัญเท่ากับการสื่อสารที่จะทำอย่างไรให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนได้ 

กิจกรรมในโครงการนี้จะช่วยให้นักศึกษาไปเป็นนักสื่อสารด้านสุขภาพ สาเหตุที่ สสส. รณรงค์ เหล้า บุหรี่ เพราะมันคือปัจจัยที่ไปทำลายสุขภาพ กินอาหารที่ไม่เหมาะสม หากทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ดี จะส่งผลให้เขามีแนวทางการดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น มีการดูแลสุขภาพจิตให้มีความสุขอันนี้คือสิ่งสำคัญ โครงการนี้จะได้ 2 เด้ง คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ในการสร้างนิสัยที่ดี การสะสมชีวิตที่ดีจะทำให้อายุยืนยาว ฉะนั้น การที่นักศึกษาไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมันเป็นทุนชีวิตในการที่เขาจะใช้ชีวิตได้อย่างยืนยาว และมีสุขภาวะระหว่างทางด้วย

ด้าน ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ เปิดเผยว่า การสื่อสารในปัจจุบันจะเห็นว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนสังคม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ รวมถึงการใช้ในการยกย่องเชิดชูบุคลากรที่ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมไทย ทำให้ สสส. และสถาบันการศึกษานำร่อง 5 แห่ง มีการหารือความร่วมมือนำนักศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและมีความเข้าใจในกระบวนการสื่อสารในยุคปัจจุบัน มาทำงานร่วมกับภาคี สสส. ซึ่งขณะนี้กระจายอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ โดยนักศึกษาจะได้มีโอกาส มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพของตัวเอง ในการลงไปเก็บประเด็นทำงานร่วมกับภาคี สสส. ได้อย่างใกล้ชิด และได้ใช้ความเชี่ยวชาญ ความถนัด มาพัฒนาสื่อยุคใหม่ จากการนำประเด็นของภาคี สสส. ออกเผยแพร่ไปยังวงกว้างได้อย่างน่าสนใจ 

โดยตลอดระยะเวลาการดำเนินการ ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน โครงการได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับคณาจารย์ในสถาบันนำร่อง ทั้ง 5 แห่ง โดยเริ่มตั้งแต่การจัดกิจกรรมฝึกอบรม การจัดเวทีสร้างแรงบันดาลใจนักสื่อสารเพื่อสนับสนุนภาคีสุขภาวะ ให้เกิดการตระหนักรู้บทบาทการสื่อสาร สังคม ในมิติของสื่อสาธารณะ และจัดกิจกรรมนำสื่อมวลชนยุคใหม่เข้ามาทำงานขับเคลื่อนสังคม รวมถึงการดึงคนทำสื่อดิจิทัลมาให้ความรู้แลกเปลี่ยนกับคณาจารย์และนักศึกษา ในเรื่องคุณค่าของคนที่ทำงานขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาวะ จากกิจกรรมดังกล่าว นำมาสู่การออกแบบกระบวนการของการลงไปทำงานในพื้นที่จริง โดยมีทีมพี่เลี้ยงอำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการที่ลงไปทำงานกับภาคีสัมพันธ์ในตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา  

ภาพ : สุภัทรชรี บุญประชุม

ข่าว : พัฒนะ พิมพ์แน่น