รอบรั้วกันเกรา

  • Home
  • รอบรั้วกันเกรา
  • ม.นครพนม ต้อนรับกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น เข้าหารือความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างมหาวิทยาลัยไทย-เวียดนาม

ม.นครพนม ต้อนรับกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น เข้าหารือความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างมหาวิทยาลัยไทย-เวียดนาม

นายพัฒนะ พิมพ์แน่น 2022-05-24 17:32:08 635

ม.นครพนม ต้อนรับกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น เข้าหารือความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างมหาวิทยาลัยไทย-เวียดนาม

ดร.พรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับนาย จู ดึ๊ก สุง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมและพบปะคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ณ ห้องพนมเมธี ชั้น 5 อาคารสารสนเทศเพื่อการบริหาร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565

ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมาพบผู้บริหารของมหาวิทยาลัยนครพนม นาย จู ดึ๊ก สุง ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด และได้พูดคุยถึงประเด็นเรื่องการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือผู้บริหารระดับสูง 3 ประเทศ 9 จังหวัด ที่มี ไทย ลาว และเวียดนาม โดยจัดขึ้นที่จังหวัดฮาติงห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งอยากให้การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของผู้บริหารระดับสูง 3 ประเทศ 9 จังหวัด ได้ดำเนินการจัดเวทีประชุมต่อไป เพื่อผลักดันความร่วมมือใน 4 ด้าน ให้เป็นรูปธรรมและมีความต่อเนื่อง ซึ่ง 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการศึกษา วัฒนธรรม การกีฬา การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.ด้านการค้าและการลงทุน 3.ด้านการคมนาคมขนส่ง และ 4.ด้านการเกษตร  

จากนั้นได้เข้าพบผู้บริหารของมหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งการเข้าพบผู้บริหารมหาวิทยาลัยของนาย จู ดึ๊ก สุง ครั้งนี้ เป็นการพูดคุยหารือความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน ระหว่างมหาวิทยาลัยนครพนมกับมหาวิทยาลัยในเวียดนาม โดยนาย จู ดึ๊ก สุง กล่าวว่า จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีความเหมาะสมมากในด้านของภูมิประเทศ สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ เช่น การศึกษา การท่องเที่ยว การค้าระหว่างประเทศ หากมีความร่วมมือกันอย่างจริงจังและต่อเนื่องโดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ยิ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งในที่ประชุม นาย จู ดึ๊ก สุง ได้หารือและเสนอหลายประเด็น คือ

1. อยากให้มีการผลักดันความร่วมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยนครพนมกับมหาวิทยาลัยในเวียดนาม โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยของเวียดนามที่ทางมหาวิทยาลัยนครพนมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันไว้ก่อนหน้านี้ จำนวน 10 ฉบับ ให้เป็นรูปธรรม

2. ผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและคณาจารย์ของทั้งสองประเทศ ทั้งในหลักสูตรระยะสั้นและหลักสูตรระยะยาว

3. อยากให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านเกษตรและเทคโนโลยีร่วมกัน เช่น การปรับแต่งพันธุกรรม การเพาะปลูก การพัฒนาสายพันธุ์ และการพัฒนาพันธุ์พืช 

4. กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น ได้ปรึกษาหารือกับจังหวัดก๋วงบินห์ ซึ่งมีความสนใจเกี่ยวกับโปรแกรมของวิทยาลัยการบินนานาชาติ มหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งในอนาคตจะเกิดความร่วมมือ และการฝึกอบรมนักบินของนักศึกษาเวียดนาม

5. ผลักดันให้เกิดการเรียนการสอนภาษาเวียดนามในมหาวิทยาลัยนครพนม ขณะเดียวกันก็อยากให้มีการเรียนการสอนภาษาไทยในมหาวิทยาลัยเวียดนามที่ทั้งสองประเทศเคยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันไว้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจทางด้านภาษา วัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ หรือนักธุรกิจ ที่จะเอื้ออำนวยความสะดวกต่อการค้าขายระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น

6. ผลักดันให้มหาวิทยาลัยทั้งสองประเทศ เกิดความร่วมมือทางด้านการศึกษา และด้านเทคโนโลยี เพื่อให้นักวิจัย ผู้ประกอบการ หรือนักธุรกิจ ได้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และสร้างผลิตภัณฑ์ สินค้า ออกสู่ท้องตลาด ให้สอดคล้องและเหมาะสมในบริบทอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

7. ผลักดันให้มหาวิทยาลัยทั้งสองประเทศ เปิดโอกาสทางด้านการศึกษา โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาของเวียดนามที่เข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยนครพนม และทางมหาวิทยาลัยในเวียดนามมอบทุนการศึกษา ในโอกาสที่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนครพนม เดินทางไปศึกษาที่เวียดนาม ซึ่งนอกจากเป็นสร้างความรู้ แลกเปลี่ยนทางด้านการศึกษาร่วมกัน ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจระหว่างนักศึกษาของทั้งสองประเทศในอนาคต 

8. ผลักดันให้มหาวิทยาลัยของทั้งสองประเทศที่เคยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันไว้ เปิดโอกาสให้นักศึกษาในระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งไทยและเวียดนามร่วมมือทำวิจัย สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ร่วมกัน

9. ผลักดันให้เกิดกลไกการสื่อสาร ระหว่างมหาวิทยาลัยนครพนมกับกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อติดตามข้อมูลของนักศึกษาเวียดนามหลังสำเร็จการศึกษาในมหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงข้อมูลเชิงลึก เพื่อใช้ในการวางแผนและสร้างความร่วมมือกันในด้านอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงประเด็นการตั้งศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยนครพนมที่จังหวัดฮาติงห์ของเวียดนาม โดยทางกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น จะรับเรื่องไว้เป็นข้อมูลเพื่อนำไปปรึกษาและเป็นผู้ที่อำนวยความสะดวกให้กับทั้งสองมหาวิทยาลัยในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

ด้าน ดร.พรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เปิดเผยว่า การเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยือนของกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น ถือเป็นเรื่้องที่ดีมาก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็มีความแนวคิดที่จะดำเนินงานมานาน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้โครงการต้องหยุดชะงัก โดยหลังจากนี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง ก็น่าจะได้เห็นความร่วมมือทางวิชาการของทั้งสองมหาวิทยาลัยมากยิ่งขึ้น และถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทางกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ จ.ขอนแก่น จะเป็นตัวเชื่อมประสานให้การดำเนินงานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

ภายหลังการประชุม คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยนครพนม ได้นำนาย จู ดึ๊ก สุง เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการเรียนการสอนของวิทยาลัยการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ โดยมีนักศึกษาได้โชว์ฝีมือชงเครื่องดื่มให้กับนาย จู ดึ๊ก สุง พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมชมครั้งด้วย

#NakhonPhanomuniversity #NPU #NPUThailand #มหาวิทยาลัยนครพนม #มหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาชุมชน #นครพนม #ต้อนรับกงสุลใหญ่เวียดนาม #กงสุลเวียดนาม #หารือความร่วมมือทางวิชาการ #แลกเปลี่ยนไทยเวียดนาม #เวียดนาม

ภาพ/ข่าว : งานสื่อสารองค์กร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม

อัลบั้มภาพข่าว : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=npufamily&set=a.1063984267660285

HOT LINK