ยามค่ำคืนของริมฝั่งโขงในเดือนตุลาคมกำลังจะถูกแต่งแต้มด้วยแสงไฟนับหมื่นดวงจาก "มหกรรมไหลเรือไฟโลก 2568" งานประเพณีที่ผูกพันอยู่กับชีวิตชาวนครพนมมาหลายชั่วอายุคน และปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่นครพนมยกระดับประเพณีไหลเรือไฟไปสู่เวทีโลก

แต่กว่าที่เรือไฟจะส่องสว่างทอแสงได้อย่างยิ่งใหญ่กลางลำน้ำโขง องค์ประกอบเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยนึกถึงอย่าง “กระป๋องเครื่องดื่ม” กลับกลายเป็นหัวใจสำคัญ

จากของเหลือใช้ สู่หัวใจแห่งแสงไฟ

ในสายตาใครหลายคน กระป๋องเครื่องดื่มอาจเป็นเพียงเศษวัสดุที่ถูกทิ้ง แต่สำหรับชาวนครพนม มันคือชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่รวมกันแล้วก่อให้เกิดความมหัศจรรย์ เมื่อถูกบรรจุน้ำมันตะเกียงและจุดไฟขึ้นมา กระป๋องแต่ละใบจะกลายเป็นดวงไฟเล็ก ๆ ที่ส่องประกายบนเรือไฟ

ปีนี้ มหาวิทยาลัยนครพนม ได้รวมพลังระดมกระป๋องเครื่องดื่มจากทุกคณะ ทุกวิทยาลัย สถาบัน และหน่วยงานในสังกัด ทั้งนักเรียน นักศึกษา และบุคลากร ต่างช่วยกันเก็บ สะสม ส่งต่อ จนสุดท้ายได้จำนวนกระป๋องมากถึง 72,158 ใบ เกินเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เพียง 50,000 ใบ อย่างน่าภูมิใจ และทุกกระป๋องที่ผ่านมือไม่ใช่แค่ภาชนะโลหะ แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวของน้ำใจ ความสามัคคี และศรัทธาที่มุ่งมั่นอยากให้ประเพณีนี้สืบต่อไป

เรือไฟโชว์ขนาดมหึมา ความยาว 52 เมตร สูง 15 เมตร

เรือไฟของมหาวิทยาลัยนครพนมปีนี้ ถูกสร้างขึ้นในประเภท "เรือไฟโชว์สวยงาม" ด้วยโครงสร้างขนาดใหญ่ ยาวถึง 52 เมตร สูง 15 เมตร ดุจงานศิลป์ที่ผสมผสานความชำนาญของช่างฝีมือท้องถิ่นกับพลังของคนรุ่นใหม่

ยามค่ำคืน กระป๋องแต่ละใบที่บรรจุน้ำมันจะถูกจุดขึ้นพร้อมกัน ดวงไฟนับหมื่นบนเรือไฟสะท้อนลงสายน้ำโขง กลายเป็นภาพที่ทั้งงดงามและศักดิ์สิทธิ์ ราวกับดวงดาวทั้งฟ้าได้ไหลไปตามสายน้ำ

นักศึกษากับบทเรียนแห่งศรัทธา

นอกจากการสร้างเรือไฟแล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า คือภาพที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน เมื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยนครพนมจะรวมตัวกันเพื่อ กรอกน้ำมันตะเกียงไฟ กิจกรรมที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหมายลึกซึ้ง เพราะนี่คือการสืบทอดประเพณีที่บรรพบุรุษได้ฝากไว้

มือเล็ก ๆ ของเยาวชนจะได้สัมผัสกับรากเหง้าแห่งศรัทธา พวกเขาจะได้เรียนรู้ว่าไฟแต่ละดวงบนเรือไฟ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะเชื้อเพลิงและไส้ตะเกียง แต่เกิดขึ้นจากแรงกาย แรงใจ และความเชื่อที่สืบทอดกันมา

คืนแห่งการเฉลิมฉลอง

มหาวิทยาลัยนครพนม จะนำเรือไฟโชว์ออกสู่สายตาประชาชนทั้ง 6 คืน ได้แก่ วันที่ 27, 29 กันยายน และ 2, 4, 6, 8 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

และแน่นอนว่าในคืนสำคัญที่สุดของงาน คือ วันที่ 7 ตุลาคม 2568 หรือคืนวันออกพรรษา ซึ่งผู้คนจากทุกสารทิศจะมารวมตัวกันบริเวณริมโขง เพื่อร่วมเป็นประจักษ์พยานแห่งความศรัทธาใน “ไหลเรือใหญ่” ที่จะมีเรือไฟนับสิบ ๆ ลำ ลอยเรียงรายสว่างไสวไปทั้งแม่น้ำ

"ซุ้มเรือไฟ" พื้นที่แห่งศิลปวัฒนธรรม

ภายในซุ้มเรือไฟของมหาวิทยาลัยนครพนม ผู้มาเยือนยังจะได้สัมผัสกับกิจกรรมทางวัฒนธรรม ทั้งการแสดงของนักศึกษา การละเล่นพื้นบ้าน และการแสดงร่วมกับเทศบาลเมืองนครพนม ถ่ายทอดอัตลักษณ์ท้องถิ่นอีสานริมโขงให้ผู้คนได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด

เมื่อไฟดวงแรกถูกจุดขึ้นบนเรือไฟ มันไม่เพียงเป็นแสงที่ส่องสว่างกลางแม่น้ำโขง แต่ยังเป็นแสงแห่งความสามัคคีที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนทั้งชุมชนและมหาวิทยาลัย ที่ร่วมกันเปลี่ยนกระป๋องเครื่องดื่มธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นประกายไฟอันยิ่งใหญ่ และนี่คือเสน่ห์ของ "ไหลเรือไฟนครพนม" งานประเพณีที่ไม่เพียงงดงามในสายตา แต่ยังจับหัวใจของทุกคนที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย

เรื่อง : พัฒนะ พิมพ์แน่น

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเรือไฟมหาวิทยาลัยนครพนม : https://www.facebook.com/profile.php?id=61580186405950