Archives

การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสาเหตุของผลการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา แบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของคุรุสภา

[เปิดดู 68 ครั้ง]

ปริญญา มีสุข อังค์วรา วงษ์รักษา และ ทิพย์วิมล วังแก้วหิรัญ

      การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาตัวแปรสาเหตุและตัวแปรผลการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของคุรุสภา และเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อผลการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของคุรุสภา ตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 462 คน ที่ได้จากการกำหนดขนาดตัวอย่างด้วยวิธีกำหนดเกณฑ์ และเปรียบเทียบกับการวิเคราะห์ขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมด้วยโปรแกรม G*Power โดยสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามจำนวน 50 ข้อ มีค่าความเที่ยงอยู่ระหว่าง 0.88-0.97 ผลการวิจัยพบว่า ตัวแปรที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ด้านบริบท (=4.10) รองลงมาคือด้านความสำเร็จ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับด้านความยั่งยืน (=3.88) และด้านผลกระทบ (=3.86) ส่วนตัวแปรที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือด้านปัญหาอุปสรรค (=2.73) และพบว่า 1) ตัวแปรบริบทและปัจจัยนำเข้าส่งผลต่อตัวแปรผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 2) ตัวแปรบริบทและปัจจัยนำเข้าส่งผลต่อความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3) ตัวแปรบริบทส่งผลทางลบ ส่วนตัวแปรกระบวนการส่งผลทางบวกต่อตัวแปรปัญหาอุปสรรคอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ 4) ตัวแปรบริบทส่งผลต่อตัวแปรความยั่งยืนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

      This research aimed to study the cause and effect variables of Thailand's Professional Development of Teacher and Education Personnel with Professional Learning Community project. In addition, this project analyses the causal factors influencing to Thailand's Professional Development of Teacher and Education Personnel with Professional Learning Community project. The samplings were included462 school administrators, teachers and related educational personnel. The sampling size were grouped by criteria determination and comparison with the suitable sample size analysis by G * Power Program. Research instruments were included stratified random samplings, as well as 50-items of questionnaires with a reliability coefficient between 0.88-0.97. The results revealed that the variable with the highest mean was the context (=4.10), while the second rank showing success average value was equal to the sustainability (=3.88) and the impact (=3.86). The lowest mean value of variables were is the problem and obstacles (=2.73). Furthermore, the research results suggested that1) the contextual variables effected to ansignificantly caused negative effect while variables of process positively effect to problematic variables with significant level of statistics.