Archives

สมรรถนะด้านการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา2558วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม
Health Promotion Competencies of Bachelor of Nursing Students in Academic Year 2015 at Srimahasarakham Nursing College

[เปิดดู 124 ครั้ง]

สกาวรัตน์ ไกรจันทร์

    การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะด้านการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม ชั้นปีที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 102 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถามสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพด้านการสร้างเสริมสุขภาพ หาค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือโดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient) ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .94 เก็บรวมรวมข้อมูลด้วยตนเอง สถิติที่ใช้การหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
    ผลการวิจัยพบว่า สมรรถนะด้านการสร้างเสริมสุขภาพของนักนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2558วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคามพบว่า อยู่ในระดับปานกลางถึงมาก ( =3.66, S.D.=0.47) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดคือด้านปฏิบัติกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ( =3.75, S.D.=0.51) รองลงมาคือด้านบริหารจัดการ ในการสร้างเสริมสุขภาพและ ด้านการวิจัยและการจัดการความรู้ ( =3.69, S.D.=0.53, =3.67, S.D.=0.67) ตามลำดับ ส่วนด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำสุดคือ คุณลักษณะส่วนบุคคลในการสร้างเสริมสุขภาพ ( =3.64, S.D.=0.47)

    The purpose of this descriptive study was to investigate health promotion competencies of Bachelor of Nursing students. A sample was 102 Bachelor of Nursing students at sophomore level in Srimahasarakham Nursing College during academic year 2015. The instrument used in studying was a questionnaire of health promotion competencies of the professional nursing. The Cronbach's alpha coefficient was used to find the reliability of the instrument. The reliability value found was .94. The author collected data manually. Statistics used were mean and standard deviation.
   Results of the study found that health promotion competencies of Bachelor of Nursing students in academic year 2015 at Srimahasarakham Nursing College ranged from moderate to high levels ( = 3.66, S.D. = 0.47). When considering each aspect, the aspect that gained the highest mean score was of practice in health promotion activities (=3.75, S.D.=0.51), followed by the aspects of health promotion management, and research as well as knowledge management ( =3.69, S.D. =0.53 =3.67, S.D. =0.67), respectively. The aspect that gained the lowest mean score was of personal attributes in health promotion ( = 3.64, S.D. = 0.47)