วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 นายสมยศ สีแสนซุย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ให้การต้อนรับ นายฟาน จี๋ แถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมและพบปะคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยนครพนม ภายหลังร่วมงานรำลึก 133 ปี วันคล้ายวันเกิดท่านประธานโฮจิมินห์ และความสัมพันธ์มิตรภาพไทย - เวียดนาม ประจำปี 2566 ในช่วงเช้า ที่หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

โดยมหาวิทยาลัยนครพนม ได้นำ นายฟาน จี๋ แถ่ง และคณะ เข้าเยี่ยมชมเครื่องจำลองฝึกการบิน (Simulator) (เขตพื้นที่มรุกขนคร) ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม ก่อนที่จะเดินทางไปยังวิทยาลัยการบินนานาชาติ (เขตพื้นที่ฐานบิน) ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนครพนม เพื่อเยี่ยมชมเครื่องฝึกบินขนาดเล็ก โดยมี นายเทียมศักดิ์ เวียงศรีประเสริฐ กรรมการสภามหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมคณะผู้บริหารของวิทยาลัยการบินนานาชาติร่วมต้อนรับ พร้อมกันนี้ทางวิทยาลัยการบินนานาชาติ ยังได้นำ นายฟาน จี๋ แถ่ง ทดลองนั่งและถ่ายรูปคู่กับเครื่องฝึกบินขนาดเล็กร่วมกับนายสมยศ สีแสนซุย ด้วย

จากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้เข้าประชุมหารือถึงแนวทางความร่วมมือของหลักสูตรการบิน ระหว่างสถาบันการศึกษาของเวียดนาม กับ วิทยาลัยการบินนานาชาติ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย ด้าน นายสมยศ สีแสนซุย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยนครพนมเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศทางด้านการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เนื่องจากจังหวัดนครพนมตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดกับประเทศลาวและเวียดนาม ผ่านเส้นทางหมายเลข 8 หมายเลข 9 และ หมายเลข 12  ในอดีตที่ผ่านมามหาวิทยาลัยนครพนมมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสถาบันการศึกษาหลายแห่งในประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง เช่น มหาวิทยาลัยวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแท็งฮวา, มหาวิทยาลัยวิงห์, มหาวิทยาลัยฮาติงห์, มหาวิทยาลัยกว่างบิ่ง, วิทยาลัยครูกวางตรี, มหาวิทยาลัยเว้ และมหาวิทยาลัยดานัง เป็นต้น 

อีกทั้ง ยังเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับนักศึกษาเวียดนามเข้ามาศึกษาในหลักสูตรภาษาไทยและหลักสูตรปริญญาตรีเมื่อกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังมีความร่วมมือทางด้านการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนนักศึกษา การแลกเปลี่ยนบุคลากร และความร่วมมือทางด้านวิชาการมาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยนครพนมยังคงให้ความสำคัญกับการสานต่อความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในเวียดนาม ทั้งทางด้านการศึกษา การวิจัย และการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม นายสมยศ กล่าว

ขณะที่ นายฟาน จี๋ แถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย กล่าวว่า ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกดีขึ้น แน่นอนว่าอุตสาหกรรมการบินจะต้องกลับมาคึกคักเหมือนเดิม การผลิตบุคลากรที่มีความสามารถทางด้านการบินในสาขาต่าง ๆ ย่อมมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญหากมองในเรื่องภูมิศาสตร์ของประเทศ มหาวิทยาลัยนครพนมก็นับว่ามีความพร้อมเป็นอย่างมาก หากมีการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคลากรทางการบิน หรือนักศึกษาการบิน ระหว่าง สถาบันการศึกษาของเวียดนาม และ ไทย (มหาวิทยาลัยนครพนม) เชื่อว่าจะเป็นความร่วมมือที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อประชาคมอนุภูมิภาคนี้ ซึ่งต่อจากนี้ตนจะเป็นตัวเชื่อมประสานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ และอาจจะต้องมีการพูดคุยหารือกันอีกครั้งถึงความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป นายฟาน จี๋ แถ่ง กล่าว

ภาพ/ข่าว : พัฒนะ พิมพ์แน่น