วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 มหาวิทยาลัยนครพนม จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างมหาวิทยาลัยนครพนม กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดนครพนม เพื่อให้เกิดการบูรณาการงานระหว่างหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาความยากจนในตำบลได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีนายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธาน ที่ห้องประชุมศรีโคตรบูรณ์ ชั้น 3 อาคารศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม เขตพื้นที่ศรีโคตรบูรณ์

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างมหาวิทยาลัยนครพนม กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครพนม เป็นนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการวางแผนยุทธศาสตร์ของระบบอุดมศึกษา และการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยในประเทศไทย (Reinventing University) มีความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ศักยภาพของการเรียน และองค์ความรู้ของบัณฑิตให้ตรงกับสังคมและยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด จึงมอบหมายให้มหาวิทยาลัยดำเนินโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ “U2T” เพื่อให้มหาวิทยาลัยสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับองค์กรหลักในตำบลได้ตามวัตถุประสงค์ และเกิดประโยชน์ สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการแก้ปัญหาความยากจนในตำบลได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการพัฒนากลไกการทำงานร่วมมือกันระหว่างประชาชนในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมหาวิทยาลัย 

รองศาสตราจารย์กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนครพนม จัดอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยพัฒนาชุมชนในพื้นที่ (Area Based Community) มีวิสัยทัศน์ เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ชั้นนำของประเทศ มียุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาพื้นที่โดยสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยนวัตกรรมและประเทศไทย 4.0 และการให้บริการทางวิชาการ โดยนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี งานวิจัยและนวัตกรรม ไปใช้พัฒนาพื้นที่ครอบคลุมในหลายมิติ เช่น ด้านการพัฒนาการเกษตร การพัฒนาด้านการประมง-ปศุสัตว์ การส่งเสริมและยกระดับการท่องเที่ยว การยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP การนำเทคโนโลยีไปช่วยในกระบวนการผลิตหรือการแปรูปผลิตภัณฑ์ ยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งการแก้ปัญหาความยากจนและสุขภาพของประชาชน เพื่อให้เกิดการบูรณาการงานระหว่างหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน มหาวิทยาลัยนครพนมจึงมีแนวทางในการบูรณาการในรูปแบบการทำข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยนครพนมและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครพนม จำนวน 103 แห่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง และสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 1 แห่ง รวมทั้งสิ้น 105 แห่ง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา ยกระดับขีดความสามารถของบุคลากร ดำเนินการศึกษา วิจัยและพัฒนา ตลอดจนทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และสร้างเครือข่ายในการพัฒนาพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง อย่างมั่นคง และยั่งยืน รองศาสตราจารย์กิตติชัย กล่าว.

นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ประเทศไทย ๔.๐ (มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน) เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง มีความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่งและความไม่สมดุลในการพัฒนา อีกทั้งยังติดอยู่ในโมเดลเศรษฐกิจแบบ “ทำมากได้น้อย” จึงจะต้องปรับเปลี่ยนให้เป็น “ทำน้อยได้มาก” โดยเปลี่ยนจากการผลิตสินค้า “โภคภัณฑ์” ไปสู่สินค้าเชิง “นวัตกรรม” และเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ซึ่งเป็นนโยบายที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ 

สอดคล้องกับจังหวัดนครพนม ที่มีเป้าหมายในการแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนในพื้นที่ จำเป็นต้องประสานความร่วมมือกันทั้งประชาชนในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งชองชุมชน ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ด้วยการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และเทคโนโลยีเข้าไปช่วยพัฒนาศักยภาพคนในชุมชน ซึ่งจะตอบเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ที่จะขับเคลื่อนไปสู่การเป็นประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล นายสุวิทย์ กล่าว.

ภาพ/ข่าว : งานสื่อสารองค์กร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี

อัลบั้มภาพทั้งหมด : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=npufamily&set=a.794934104565304